รายละเอียดกระทู้
บทคัดย่อ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับกิจกรรมการเรียนแบบคู่คิด เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับกิจกรรมการเรียนแบบคู่คิด ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
5 หลังจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับกิจกรรมการเรียนแบบคู่คิด และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค
KWLH Plus ร่วมกับกิจกรรมการเรียนแบบคู่คิด
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโพธิ์ธาตุประชาสรรค์ จังหวัดศรีสะเกษ
กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนโพธิ์ธาตุประชาสรรค์ อำเภอวังหิน
จังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2563 จำนวน 22 คน
รูปแบบการวิจัยเป็นแบบที่มี การทดสอบก่อนและหลังทดลอง
(One group pretest posttest design)
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคKWLH
Plus ร่วมกับกิจกรรมการเรียนแบบคู่คิด วิชาประวัติศาสตร์4 (ส32104) จำนวน 14
แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง
ระบบฟิวดัลหรือระบบศักดินาสวามิภักดิ์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่
2 เรื่อง สงครามครูเสด แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การฟื้นฟูศิลปวิทยากร แผนการจัดการเรียนรู้ที่
4 เรื่อง การสำรวจทางทะเล แผนการจัดการเรียนรู้ที่
5 เรื่อง การปฏิรูปศาสนา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง
การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง การปฏิวัติอุตสาหกรรม แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เรื่อง
ยุคแห่งความสว่างไสวทางปัญญา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง
พัฒนาการของรัฐชาติ แผนการจัดการเรียนรู้ที่
10 เรื่อง ยุคจักรวรรดินิยม แผนการจัดการเรียนรู้ที่
11 เรื่อง สงครามโลกครั้งที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 เรื่อง
สงครามโลกครั้งที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ที่
13 เรื่อง สงครามเย็น และแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 เรื่อง สถานการณ์ของโลกในคริสต์ศตวรรษที่
21 ซึ่งแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ทุกแผนมีการประเมินรูปแบบความเหมาะสมโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน
5 คน โดยรวมแผนการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับคุณภาพความเหมาะสมมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย(
=
4.77, S.D. = 0.34) และนำมาใช้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์4
( ส32104) ใช้เวลาในการจัดการเรียนรู้ 18 ชั่วโมง
2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย 4
ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) มีค่าระหว่าง 0.60 ? 1.00 และแบบทดสอบทั้งฉบับมีค่าความเชื่อมั่น
0.92 3) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อกิจกรรมการเรียนการสอน จำนวน 21
ข้อ ค่าดัชนีความสอดคล้องความคิดเห็นกับจุดประสงค์การเรียนรู้รายข้อ
(IOC) มีค่าระหว่าง
0.80
? 1.00 ในการหาประสิทธิภาพของเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติทดสอบที
ผลการวิจัยพบว่า 1.
รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับกิจกรรม การเรียนแบบคู่คิด
เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชาประวัติศาสตร์4 (ส32104) ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ความเหมาะสมของรูปแบบโดยรวมอยู่ในระดับคุณภาพความเหมาะสม
มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (
=
4.77, S.D. = 0.34) มีประสิทธิภาพเท่ากับ
82.48/83.64 ซึ่งมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
5 จัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWLH Plus
ร่วมกับกิจกรรมการเรียนแบบคู่คิด เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชาประวัติศาสตร์4 (ส32104) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.01 3.
ผลทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับกิจกรรมการเรียนแบบคู่คิด
เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์วิชาประวัติศาสตร์4 (ส32104) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
หลังเรียนนักเรียนส่วนใหญ่มีทักษะการคิดวิเคราะห์อยู่ในระดับดี โดยรวม มีค่าเฉลี่ย (
=
3.58, S.D. = 1.11) 4.
ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิค KWLH Plus ร่วมกับกิจกรรมการเรียนแบบคู่คิด เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ วิชาประวัติศาสตร์4
(ส32104) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนาและวัฒนธรรม นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย (
=
4.76, S.D. = 0.45)
|