ยินดีต้อนรับผู้ดูแลระบบโรงเรียน   
 
หัวข้อกระทู้ :
 การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนศรีแก้วพิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ตั้งกระทู้วันที่ : 31 ก.ค. 2561
จำนวนผู้เข้าอ่าน : 18300 คน
ผู้ตั้งกระทู้ : นายอภิวรุณ โสมมา 

รายละเอียดกระทู้

 

บทคัดย่อ

                                           บทคัดย่อ

หัวข้องานวิจัย      การพัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริม

                  สมรรถภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนศรีแก้วพิทยา 

                         สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ

ผู้วิจัย           นายอภิวรุณ  โสมมา

หน่วยงานที่รับผิดชอบ      โรงเรียนศรีแก้วพิทยา 

             การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ           เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนศรีแก้วพิทยา และ 2) เพื่อประเมินผลการใช้รูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครู โรงเรียนศรีแก้วพิทยา ด้วยวิธีการ  2.1) ประเมินสมรรถภาพในการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ           ของครูผู้นิเทศ 2.2)ประเมินความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้นิเทศ                 2.3)ประเมินความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการของครูผู้รับการนิเทศ    2.4) ประเมินสมรรถภาพการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้รับการนิเทศ และ 2.5) ประเมิน                    ความพึงพอใจของครูผู้รับการนิเทศที่มีต่อรูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ วิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์ (Analysis) ขั้นตอนที่ 2 การออกแบบ        และพัฒนา (Design and Development) ขั้นตอนที่ 3 การนำไปใช้ (Implementation  และ ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผล (Evaluation)  ประชากรที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ครูและนักเรียนโรงเรียนศรีแก้วพิทยา ประกอบด้วยครูผู้สอน จำนวน  28  คน  นักเรียน  จำนวน  521 คน    กลุ่มตัวอย่าง เป็นครูผู้สอนจำแนกตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ละ 2 คน   จำแนกเป็นครูผู้นิเทศ จำนวน 5 คน มี 2 คนที่ทำหน้าที่ครูผู้นิเทศและครูผู้รับการนิเทศ ครูผู้รับการนิเทศ 13 คน  (ซึ่งครูที่ทำหน้าที่เป็นผู้นิเทศประกอบด้วย หัวหน้าฝ่ายบริหารงานวิชาการและครู) และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1,2,3,4,5 และ 6 จำนวน 13 ห้องเรียน เลือกโดยการสุ่ม   แบบอาสาสมัคร (Volunteers Sampling)  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  ได้แก่  แบบวิเคราะห์เอกสาร   แบบสัมภาษณ์  แบบทดสอบ  แบบสอบถาม  แบบสังเกต  และประเด็นสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้  ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย  ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ค่า Wilcoxon Signed Rank Test           

           ผลการวิจัยพบว่า

               1. รูปแบบการนิเทศแบบหลาหลายวิธีการ เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการทำวิจัย   ในชั้นเรียนครูโรงเรียนศรีแก้วพิทยา ชื่อว่า ซีไอพีอี (CIPE) ประกอบด้วย หลักการที่มุ่งเน้นกระบวนการนิเทศที่เป็นระบบ สัมพันธ์กัน คำนึงถึงความแตกต่างของครู ด้านความรู้ ความสามารถ และทักษะ  สำคัญที่ต้องการพัฒนา โดยใช้วิธีการนิเทศที่หลากหลายเหมาะสมกับครูแต่ละคน เพื่อให้การนิเทศเกิดประสิทธิภาพสูงสุด   กระบวนการนิเทศ 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่1 Classifying : C      การคัดกรองระดับความรู้ ความสามารถ ทักษะที่สำคัญเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้และการวิจัย   ในชั้นเรียนเพื่อจัดกลุ่มครูและเลือกวิธีการนิเทศที่เหมาะสมสำหรับครูแต่ละกลุ่ม ขั้นตอนที่ 2 Informing : I การให้ความรู้ก่อนการนิเทศ ขั้นตอนที่ 3 Proceeding : P การดำเนินงาน ได้แก่       3.1) การประชุมก่อนการสังเกตการสอน (Pre conference) 3.2) การสังเกตการสอน (Observation)  3.3) การประชุมหลังการสังเกตการสอน ( Post Conference)  และ ขั้นตอนที่ 4 Evaluating : E การประเมินผลการนิเทศ โดย มีการกำกับ ติดตาม (Monitoring) อย่างต่อเนื่องทุกขั้นตอน    เพื่อให้การดำเนินการนิเทศเกิดประสิทธิภาพ และเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ พบว่า มีความสมเหตุ   สมผลเชิงทฤษฎี ความเป็นไปได้ และความสอดคล้องของรูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ    2. ผลการใช้รูปแบบการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ เพื่อส่งเสริมสมรรถภาพ การทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนศรีแก้วพิทยา  พบว่า ครูผู้นิเทศมีสมรรถภาพในการนิเทศ   แบบหลากหลายวิธีการ อยู่ในระดับสูงมาก  และมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศ           แบบหลากหลายวิธีการและการวิจัยในชั้นเรียน ก่อนและหลังการใช้รูปแบบ แตกต่างกัน  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05  โดยมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ       ครูผู้รับการนิเทศมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ ก่อนและหลังการใช้รูปแบบ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01  โดยมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการนิเทศ มีสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียน อยู่ในระดับสูงมาก และมีความพึงพอใจของต่อรูปแบบ การนิเทศแบบหลากหลายวิธีการ อยู่ในระดับมากที่สุด 

 


โปรดอ่านข้อมูลเบื้องต้นก่อนแสดงความเห็น
1. ห้ามโพสต์ ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สามหรือบุคคลอื่น
2. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าหรือหารายได้ ต่างๆโดยเด็ดขาด
3. ถ้าพบข้อความไม่เหมาะสมเราจะลบทิ้งทันทีโดยไม่แจ้งเจ้าของกระทู้ล่วงหน้า
4. ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบข้อความของตัวเองทุกข้อความ
5. หากพบข้อความ หรือกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่ singhapoo@hotmail.com เพื่อดำเนินการลบออกจากระบบต่อไป
ข้อความ :
โดย :
E-mail : *****กรุณาใช้ E-maill จริงเท่านั้น
คำเตือน : กรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และแน่ใจว่าข้อมูลนี้ไม่ใช่ ข้อความต่อว่าให้ร้ายผู้อื่น มิฉะนั้นข้อมูลนี้จะโดนลบทิ้งทันที